วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

ถ้านี่คือโลกมนุษย์แล้ว สวรรค์จะสวยแค่ไหน‏




กินให้เป็น โลกเย็นแน่ !

อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยของการดำรงชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญต่อคนเรา
โดยปกติแล้วคนเรากินอาหารทุกวัน ซึ่งถ้าเรารู้วิธีที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้โดยการเลือกซื้ออาหารในแบบที่ถูกต้องแล้ว ก็น่าจะช่วยโลกได้พอสมควรเลยทีเดียว
กินอย่างไรช่วยลดภาวะโลกร้อน...กินอย่างไร? วันนี้ผมมีวิธีการเลือกอาหารการกินแบบที่สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้มาฝากกันค่ะการช่วยลดภาวะโลกร้อนไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แม้กระทั่งการเลือกซื้ออาหารที่ถูกต้องเหมาะสม ก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่าเลือกกิน เลือกซื้อ อาหารอย่างไรถึงจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
ซื้อของสดที่ตลาดใกล้บ้าน
ถ้าใกล้ๆ บ้านของคุณมีตลาดสดอยู่ ก็ควรที่จะซื้ออาหารหรือของสดมาทำกับข้าวจากตลาดสดเลย เพราะว่าถ้าเทียบกับการซื้อกับข้าวหรือของสดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตภายในห้างสรรพสินค้า ที่มีการใช้แพ็กเกจจิงอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งถาดโฟม ห่อพลาสติก กล่องกระดาษ แล้วนั้น การซื้อของจากตลาดสดจะมีผลดีต่อโลกมากกว่า แล้วก็อย่าลืมเอาถุงผ้าหรือตะกร้าของเราไปจ่ายตลาดด้วยนะครับ เพราะการไม่ใช้ถุงพลาสติกจะช่วยลดขยะลงได้ถึง 10% ส่งผลให้สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึง 1,200 ปอนด์ นอกจากนั้นยังพบว่าในการผลิตถุงพลาสติก 1 หมื่นล้านถุง ต้องใช้ต้นไม้ถึง 14 ล้านต้น ทำให้เราสูญเสียตัวดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่ดีไปไม่น้อยอีกด้วย
แวะซื้อหลังเลิกงานหรือไปธุระ ถ้าทางผ่านไปบ้านของคุณมีตลาดสด หรือร้านขายกับข้าวก็ควรจะแวะซื้อไปเลย จะได้ไม่เปลืองค่าน้ำมันรถ แล้วยิ่งตอนนี้น้ำมันแพง นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของเราไปอีกทางหนึ่งด้วย กินผักผลไม้ตามฤดูกาลที่ปลูกภายในประเทศ ในกรณีนี้ยิ่งถ้าเป็นผักปลอดสารพิษนั้นยิ่งน่าอุดหนุน เพราะการใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากจะทำให้เกิดสารพิษทำร้ายโลกแล้ว ยังจะเป็นอันตรายต่อเราอีกด้วย การเลือกซื้อผลไม้ที่ปลูกในประเทศเรานั้น นอกจากจะช่วยสนับสนุนผลิตผลของเกษตรกรไทยแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งข้ามประเทศ ลดพลังงานจากการที่ต้องแช่แข็ง แถมเรายังได้กินของที่สดกว่าอีกด้วยลดการกินอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งเป็นอาหารที่แทบจะใช้พลังงานสิ้นเปลืองในทุกขั้นตอน (อาหารแช่แข็งใช้พลังงานในการผลิตสูงถึง 10 เท่าของอาหารทั่วไป) ไม่ว่าจะเป็นกล่องพลาสติกที่ใส่ การขนส่ง แล้วยังจะต้องแช่เย็นไว้ตลอดเวลา เวลาจะกินยังต้องใช้ไมโครเวฟอุ่นอีก ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะกินอาหารแช่แข็ง
ลดกินเนื้อวัว อุตสาหกรรมเนื้อวัวนั้นสร้างก๊าซเรือนกระจกสูง ไม่ว่าจะเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ที่ออกมาจากมูลและการเรอของวัว ผู้เชี่ยวชาญเขาแนะนำว่าเราควรจะบริโภคเนื้อและแฮมเบอร์เกอร์ให้น้อยลง หากการบริโภคเนื้อแดงลดลง 10% สามารถลดปริมาณการผลิตก๊าซจากวัว แพะ และแกะได้ครับ อีกอย่างกินเนื้อน้อยลงจะช่วยลดปริมาณการผลิตเนื้อ ก็คือลดการใช้เชื้อเพลิงนั่นเอง กินมังสวิรัติกันเถอะ การหันมากินผักแทนเนื้อสัตว์ เพื่อให้ลดการเลี้ยงสัตว์ลงจึงเป็นทางออกสำคัญที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ ซึ่งอาหารมังสวิรัติจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 3,000 ปอนด์ต่อคนต่อปี การกินมังสวิรัติเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนที่ถูกต้อง ควรเลือกกินผักผลไม้ตามฤดูกาลที่มีอยู่ในท้องถิ่น ส่งเสริมผักผลไม้ที่ใช้วิธีการปลูกตามวิถีพื้นบ้าน ไม่มีการใช้สารเคมี และไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม การกินผักผลไม้ในท้องถิ่น จะช่วยลดการคมนาคมขนส่งสินค้าจากแดนไกล นอกจากนี้การหันมากินอาหารมังสวิรัติยังเป็นการส่งเสริมให้มีการปลูกพืชผักมากขึ้น พืชผักและต้นไม้เป็นตัวดูดจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่ในอากาศ เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตร หรือแม้แต่การปลูกพืชผักสวนครัวก็มีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ ข้อดีอีกประการของการหันมากินพืชผัก คือสามารถจัดการกับขยะที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า
หากคุณผู้อ่านทั้งหลายสามารถทำแบบนี้ได้ทั้งหมด แค่นี้ก็จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว...ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ

กินอย่างไรช่วยลดภาวะโลกร้อน


กินอย่างไรช่วยลดโลกร้อน
ในบรรดากิจกรรมต่างๆ อาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนประการหนึ่งเพราะอาหารเป็นสิ่งจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เราจำเป็นต้องกินอาหารวันละ 3 มื้อและอาหารแต่ละชนิดมีองค์ประกอบที่ต่างกันไป แต่องค์ประกอบหลักคือพืชและสัตว์ เพราะการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ใช้น้ำและพื้นที่มากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ซ้ำแล้วสัตว์ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า1 ใน 5 ของคนที่ปลดปล่อยออกมาบนโลกโดยเฉพาะ แกะ ในส่วนของคนนั้นก๊าซที่ปล่อยออกมาก็จากการกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบมากกว่าการขับรถเสียอีก กระทั่งอาหารหลายชนิดมีการขนส่งที่ซับซ้อนจึงต้องใช้พลังงานสิ้นเปลือง
ปัจจุบันสถาบันสุขภาพจะติดตั้งโปรแกรมคำนวณแคลอรี่เพื่อใช้กับคนที่มีปัญหา
น้ำหนักตัว แต่หากเรามีโปรแกรมนี้ติดตั้งทุกบ้านก็จะสามารถช่วยลดโลกร้อนได้เพื่อคำนวณแคลอรี่ของอาหารและได้อาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ หากมีอาหารที่เหลือก็จะก่อให้เกิดปัญหาขยะตามมาเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ และการใช้เทคโนโลยีในการช่วย
ลิสต์รายการอาหารก่อนออกไปซื้อก็สามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ เพราะไม่ต้องขับรถไปซื้อหลายรอบ หากใช้กระดาษก็สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ และเทคโนโลยีมักสะดวกในการพกพาเสมอ การตรวจรายการสิ่ของที่ต้องซื้อจะทำให้ได้ของที่ต้องการมากที่สุด
มนุษย์มักคิดว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ก่อปัญหาภาวะโลกร้อนเพราะเรามองเพียงว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังงานในการทำงาน แต่นั่นเป็นเพราะเราไม่รู้จักเลือกใช้ให้เหมาะกับกิจกรรมต่างๆ
ดังนั้นจากข้อมูลข้างต้นเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าหากเรารู้จักเลือกใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยี
ก็สามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนและราคาน้ำมันแพง ได้จริง!

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

MV ปันรักให้โลก

4 รักษ์

รักษ์น้ำ




อาบน้ำด้วยฝักบัว
อาบน้ำด้วยฝักบัว ประหยัดกว่าตักอาบหรือใช้อ่างอาบน้ำถึงครึ่งหนึ่งในเวลาเพียง 10 นาที ปิดน้ำขณะแปรงฟัน ประหยัดน้ำเดือนละ 151 ลิตร

ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดภาวะโลกร้อน
หันมาใช้ถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะการเผากำจัดถุงพลาสติกในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีก๊าซเรือนกระจกเพิ่มในบรรยากาศ

แยกขยะอินทรีย์
การแยกขยะอินทรีย์ ออกจากขยะอื่นๆ เช่น เศษผัก เศษอาหาร เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ

สร้างนโยบาย 3Rs- Reduce, Reuse, Recycle
ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างเต็มที่ เป็นการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการกำจัด

วิธีรักษ์น้ำที่ง่ายที่สุด คือ ช่วยกันลดการใช้น้ำคนละ 1 แก้ว/วัน
วิธีรักษ์น้ำที่ง่ายที่สุด คือ ช่วยกันลดการใช้น้ำคนละ 1 แก้ว/วัน แค่นี้ประเทศไทยก็จะสามารถประหยัดน้ำได้ถึง 30,000 ตัน/วันแล้วครับ/ค่ะ


การอาบน้ำด้วยฝักบัว จะสิ้นเปลืองน้ำน้อยที่สุด
รูฝักบัวยิ่งเล็ก ยิ่งประหยัดน้ำ ปิดฝักบัวในขณะที่ถูสบู่จะใช้น้ำเพียง 30 ลิตร หากไม่ปิดจะใช้น้ำถึง 90 ลิตร และหากใช้อ่างอาบน้ำจะใช้น้ำถึง 110-200 ลิตร


ก๊อกน้ำมีอัตราการไหลของน้ำเฉลี่ย 9 ลิตรต่อ 1 นาที
ก๊อกน้ำมีอัตราการไหลของน้ำเฉลี่ย 9 ลิตรต่อ 1 นาที ถ้าเราแปรงฟันคนละ 3 นาที และเปิดน้ำทิ้งไว้ จะใช้น้ำถึง 27 ลิตร ช่วยกันปิดก๊อกน้ำขณะแปรงฟันกันนะค่ะ/ครับ


การเปิดก๊อกน้ำทิ้งขณะล้างจาน เราอาจเสียน้ำมากถึง 130 ลิตร
การเปิดก๊อกน้ำทิ้งขณะล้างจาน เราอาจเสียน้ำมากถึง 130 ลิตร แค่เราปิดก๊อกน้ำขณะล้างจาน ก็ช่วยโลกเราได้แล้วครับ/ค่ะ


ควรใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้ สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดยตรง
การรดน้ำต้นไม้ ควรใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้ สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดยตรง หากเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง ก็ควรใช้ สปริงเกลอร์ หรือใช้น้ำที่เหลือจากกิจกรรมอื่นมารดต้นไม้ ก็จะช่วยประหยัดน้ำลงได้ และไม่ควรรดน้ำต้นไม้ตอนแดดร้อนจัด เพราะน้ำจะระเหยหมดไปเปล่าๆ ให้รดตอนเช้าที่อากาศ ยังเย็นอยู่ การระเหยจะต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดน้ำ


การล้างผักผลไม้ควร ใช้ภาชนะรองน้ำเท่าที่จำเป็น
ควรล้างพืชผักและผลไม้ในอ่างหรือภาชนะที่มีการกักเก็บน้ำไว้เพียงพอ เพราะการล้างด้วยน้ำที่ไหลจากก๊อกน้ำโดยตรง จะใช้น้ำมากกว่า การล้างด้วยน้ำที่บรรจุไว้ในภาชนะถึงร้อยละ 50

รักษ์ต้นไม้




ปลูกต้นไม้ในห้องช่วยลดมลพิษ
ปลูกต้นไม้ในห้อง โดยปลูกไม้กระถางผสมถ่านกับดิน ถ่านจะเป็นตัวช่วยดูดซับสารมลพิษและจุลินทรีย์ภายในห้องได้


ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดภาวะโลกร้อน
หันมาใช้ถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะการเผากำจัดถุงพลาสติกในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีก๊าซเรือนกระจกเพิ่มในบรรยากาศ


แยกขยะอินทรีย์
การแยกขยะอินทรีย์ ออกจากขยะอื่นๆ เช่น เศษผัก เศษอาหาร เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ


สร้างนโยบาย 3Rs- Reduce, Reuse, Recycle
ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างเต็มที่ เป็นการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการกำจัด


ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์ 1 คัน


ใช้บริการรถสาธาณะ
การขับรถยนต์น้อยลง นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์


ร่มรื่นในบ้าน
การปลูกต้นไม้ที่สามารถให้ร่มเงาได้ ไว้ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของบ้าน ร่มเงาของต้นไม้ก็จะช่วยบังแสงอาทิตย์ ที่ส่งมาสร้างความร้อนให้กับตัวบ้านได้ทั้งวัน จึงสามารถลดการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้านลง ผลที่ตามมาคือค่าไฟที่ลดลงถึง 20% ต่อปี


กระดาษคือต้นไม้
กระดาษ 1 ตัน แปรรูปมาจากต้นไม้อย่างต่ำถึง 17 ต้น เราจึงต้องใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าที่สุดโดยการใช้ให้ครบทั้ง 2 หน้า


ปลูกต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน
ปลูกต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน ที่ให้ความเย็น ประมาณ 12,000 บีทียู แค่ปลูกต้นไม้ 1 ต้น ก็ถือว่าเราได้ช่วยกันรักษ์โลก รักษ์ชีวิต แล้วครับ/ค่ะ


คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรานำเทคโนโลยีมาช่วยในการรักษ์โลก รักษ์ชีวิตได้
คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรานำเทคโนโลยีมาช่วยในการรักษ์โลก รักษ์ชีวิตได้ ด้วยการส่งข้อมูลข่าวสาร ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เช่น อีเมลล์ นี่เป็นวิธีการช่วยลดการใช้กระดาษได้ง่ายๆ ครับ/ค่ะ

รักษ์อากาศ




หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์เยอะ
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์เยอะ เพียงแค่ลดขยะของคุณเอง 10 % จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 545 กิโลกรัมต่อปี


พกถุงผ้าไปช็อปปิ้ง ลดถุงพลาสติกได้มากกว่าหลายแสนล้านใบ
พกถุงผ้าไปช็อปปิ้ง แทนการใช้ถุงพลาสติก แต่ละปีทั่วโลกทิ้งถุงพลาสติกจากซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแสนล้านใบ อย่าลืมว่า การลดขยะเท่ากับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์


ปลูกต้นไม้ในห้องช่วยลดมลพิษ
ปลูกต้นไม้ในห้อง โดยปลูกไม้กระถางผสมถ่านกับดิน ถ่านจะเป็นตัวช่วยดูดซับสารมลพิษและจุลินทรีย์ภายในห้องได้


ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดภาวะโลกร้อน
หันมาใช้ถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะการเผากำจัดถุงพลาสติกในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีก๊าซเรือนกระจกเพิ่มในบรรยากาศ


แยกขยะอินทรีย์
การแยกขยะอินทรีย์ ออกจากขยะอื่นๆ เช่น เศษผัก เศษอาหาร เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ


สร้างนโยบาย 3Rs- Reduce, Reuse, Recycle
ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างเต็มที่ เป็นการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการกำจัด


ขับรถช้าๆ ก็ช่วยรักษ์โลก รักษ์ชีวิตได้
การขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์ 1 คัน เห็นไหมครับว่าขับรถช้าๆ ก็ช่วยรักษ์โลก รักษ์ชีวิตได้ครับ / ค่ะ


หันมาใช้บริการรถสาธารณะกันดีกว่า
การขับรถยนต์น้อยลงนอกจากช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ อากาศได้อีกด้วย ทางที่ดีหันมาใช้บริการรถสาธารณะดีกว่าครับ/ค่ะ


ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกเพื่อช่วยลดปริมาณการเผาขยะ
การเผากำจัดถุงพลาสติกในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีปริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีหันมาใช้ถุงผ้ากันดีกว่าครับ/ค่ะ (โชว์ถุงผ้า 7 สีปันรักให้โลก)


ใช้นโยบาย 3Rs เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การนำนโยบาย 3Rs- Reduce, Reuse, Recycle มาใช้ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์การใช้ทรัพยากรอย่างเต็มที่ ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาขยะ ในกระบวนการกำจัดขยะได้ครับ/ค่ะ

รักษ์พลังงาน




ใช้หลอดไฟตะเกียบ ประหยัดกว่าหลอดธรรมดา 4 เท่า
ใช้หลอดไฟตะเกียบ ประหยัดกว่าหลอดธรรมดา 4 เท่า ใช้งานนานกว่า 8 เท่า แต่ละหลอดช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 4,500 กิโลกรัม หลอดไฟธรรมดาเปลียนพลังงานน้อยกว่า 10% ไปเป็นแสงไฟ ส่วนที่เหลือถูกเปลี่ยนไปเป็นความร้อน เท่ากับสูญพลังงานเปล่าๆ มากกว่า 90%


เช็คลมยาง ช่วยประหยัดน้ำมันได้
เช็คลมยาง ให้แน่ใจว่ายางรถสูบลมแน่นการ ขับรถโดยที่ยางมีลมน้อย อาจทำให้เปลืองน้ำมันขึ้นได้ถึง 3% จากปกติ น้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 9 กิโลกรัม ยางที่สูบลมไม่พอจะใช้น้ำมันได้ในระยะทางสั้นลง 5%


ใช้แล็บท็อปจอแบน ประหยัดไฟมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะถึง 5 เท่า
ใช้แล็บท็อปจอแบน ประหยัดไฟมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะถึง 5 เท่า จำไว้ สกรีน เซฟเวอร์ และหมวดสแตนบายด์ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟ พลังงานที่เสียไปเท่ากับซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ได้ 1 เครื่อง และพริ้นเตอร์เลเซอร์ประหยัดพลังงานมากกว่าอิงค์เจ็ท


เปิดแอร์ที่ 25 องศา
เปิดแอร์ที่ 25 องศา อุณหภูมิต่ำกว่านี้ใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 5 - 10 %


ใช้ตู้เย็นแบบ 2 ประตู ช่วยประหยัดไฟ
ใช้ตู้เย็นแบบ 2 ประตู ขนาดความจุ 400 ลิตร ตั้งอุณหภูมิที่ 3-5 องศา และ -17 ถึง -15 องศาในช่องแช่แข็ง มีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟมากที่สุด


ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า
ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะยังคงกินพลังงานมากแม้จะปิดแล้ว ดังนั้นควรถอดปลั๊กโทรทัศน์ สเตอริโอ คอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ ฯลฯ เมื่อไม่ใช้ หรือเสียบปลั๊กเข้ากับแผงเสียบปลั๊กที่คอยปิดสวิชท์ไว้เสมอเมื่อไม่ใช้ และควรถอดปลั๊กที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือและ MP3 เมื่อไฟเต็มแล้ว


ใช้หลอดไฟตะเกียบ
ใช้หลอดไฟตะเกียบ ประหยัดกว่าหลอดธรรมดา 4 เท่า ใช้งานนานกว่า 8 เท่า แต่ละหลอดช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 4,500 กิโลกรัม หลอดไฟธรรมดาเปลียนพลังงานน้อยกว่า 10% ไปเป็นแสงไฟ ส่วนที่เหลือถูกเปลี่ยนไปเป็นความร้อน เท่ากับสูญพลังงานเปล่าๆ มากกว่า 90%


ใช้น้ำร้อนให้น้อยลง
ใช้น้ำร้อนให้น้อยลง การทำน้ำร้อนใช้พลังงานในการต้มสูงมาก การปรับเครื่องทำน้ำอุ่น ให้มีอุณหภูมิและแรงน้ำให้น้อยลง จะลดคาร์บอนไดออกไซด์์ได้ 159 กิโลกรัมต่อปี หรือการซักผ้าในน้ำเย็นจะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 227 กิโลกรัม


ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดภาวะโลกร้อน
หันมาใช้ถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะการเผากำจัดถุงพลาสติกในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีก๊าซเรือนกระจกเพิ่มในบรรยากาศ


แยกขยะอินทรีย์
การแยกขยะอินทรีย์ ออกจากขยะอื่นๆ เช่น เศษผัก เศษอาหาร เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ